บ่อน้ำพุร้อน (ONSEN)
ประเทศญี่ปุ่นมีภูเขาไฟมากมายที่ยังคุอยู่มากมายหลายลูก แม้แต่ภูเขาที่มีชื่อเสียงอย่างภูเขาฟูจิ ก็เป็นภูเขาไฟคุกรุ่นอยู่จนกระทั่งยุคกลาง ด้วยเหตุนี้ จึงมีบ่อน้ำพุร้อนอยู่ทั่วทุกแห่งของประเทศญี่ปุ่น ชาวญี่ปุ่นชื่นชอบการอาบน้ำพุร้อนมาตั้งแต่สมัยโบราณ จนกลายเป็นวิถิชีวิตของชาวญี่ปุ่นเรื่อยมา หลายแห่งเป็นน้ำพุร้อนบริสุทธิ์ (ในบางพื้นที่เมื่อแก่นโลกเย็นตัวลง และปล่อยแก๊สและไอน้ำออกมา จนกระทั่งกลายเป็นน้ำพุร้อน)
กฏหมายว่าด้วยเรื่องสถานพักผ่อนน้ำพุร้อนบัญญัติขึ้นในปีโชวะที่ 23 ระบุไว้ว่า 1. อุณหภูมิของน้ำจะต้องสูงกว่า 25 องศาเซลเซียส 2. น้ำพุร้อนจะต้องมีแร่ธาตุผสมอยู่เป็นจำนวน 1 กก. ดังนั้น ถ้าหากแหล่งน้ำนั้นมีมาตรฐานตรงกับทั้งสองข้อ ก็ถือได้ว่าเป็นน้ำพุร้อน
สถานที่อาบน้ำพุร้อนมีหลากหลายประเภท ขึ้นอยู่กับความแตกต่างของแร่ธาตุในน้ำ ให้คุณสมบัติใน การรักษาต่างกัน รวมถึงสีและกลิ่น ส่วนมากน้ำพุร้อนจะมีธาตุกัมมะถัน บ่อน้ำพุร้อนมีทั้งในร่มและกลางแจ้ง แต่ละที่เล็กใหญ่ต่างกันไป บ่อกลางแจ้งบางแห่งตั้งอยู่ระหว่างภูเขา หุบเขา หรือเลียบฝั่งแม่น้ำ มีทั้งแบ่งชายหญิงและบ่อรวม
บ่ออาบน้ำประเภทอื่นๆเช่น บ่อทราย ซึ่งผู้อาบจะถูกกลบด้วยทรายร้อน บ่อโคลน และห้องอบไอน้ำ นอกจากนี้ยังมี "อะชิยุ" เป็นบ่อน้ำร้อนตื้นๆ สำหรับแช่เท้า พบได้ตามทางเดินของสปารีสอร์ทน้ำพุร้อนและสามารถแช่ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย
การได้พักค้างคืนที่ เรียวกัง (ที่พักแบบญี่ปุ่น) ที่มีบริการน้ำพุร้อน ถือว่าเป็นประสบการณ์การอาบน้ำพุร้อนที่ยอดเยี่ยมที่สุดในการมาเยือนญี่ปุ่น โดยปกติแล้ว การมาเยือนเรียวกังที่มีบริการน้ำพุร้อนจะเริ่มจากการอาบน้ำก่อนรับประทานอาหารเย็น เป็นอาหารเย็นแบบญี่ปุ่นเต็มรูปแบบ รวมถึงอาหารขึ้นชื่อของแต่ละท้องถิ่นนั้นๆ นักท่องเที่ยวส่วนมากมักจะอาบน้ำอีกครั้งก่อนเข้านอนและก่อนรับประทานอาหารเช้าในวันรุ่งขึ้น
ถ้าหากรู้สึกอึดอัดกับการอาบน้ำร่วมกับผู้อื่น ก็สามารถใช้บริการแบบ "คะชิคิริ" บ่ออาบน้ำส่วนตัว หรือเป็นที่รู้จักกันในชื่อว่า "คะโซคุบุโระ" ซึ่งเป็นบ่ออาบน้ำสำหรับครอบครัว
การปฏิบัติระหว่างอาบน้ำพุร้อนในที่ร่ม |
ก่อนอื่น ถอดเสื้อผ้าในห้องเปลี่ยนเสื้อ และเก็บเสื้อผ้า พร้อมกับผ้าเช็ดตัว ลงในตระกร้าที่จัดเตรียมให้ ตู้เก็บเสื้อผ้ามักจะเป็นตู้หยอดเหรียญ การอาบน้ำพุร้อนแบบญี่ปุ่นมักจะเปลือยจนหมด และไม่อนุญาตให้ใช้ชุดว่ายน้ำ อย่างไรก็ตาม สามารถนำผ้าผืนเล็กเข้าไปในห้องอาบน้ำได้ เพื่อความเป็นส่วนตัวมากขึ้น เมื่ออาบน้ำพุร้อนกลางแจ้ง
หลังจากเข้าห้องอาบน้ำแล้ว ล้างตัวในบริเวณที่จัดเตรียมไว้ให้ ปกติแล้วไม่ควรยืน จากนั้นเข้าไปแช่ตัวในบ่อน้ำพุร้อน สังเกตว่าน้ำอาจจะร้อนมาก (ประมาณ 40-44 องศาเซลเซียส) ถ้าหากรู้สึกว่าร้อนเกินไป พยายามลงแช่ตัวช้าๆ และเคลื่อนไหวร่างกายให้น้อยที่สุด หลังจากแช่น้ำซักพัก ให้ขึ้นอาบน้ำถูสบู่ เช่นเดียวกับห้องอาบน้ำแบบญี่ปุ่น ควรระวังไม่ให้สบู่ลงไปผสมกับน้ำแร่ในบ่อ ปกปิดร่างกายด้วยผ้าผืนเล็กและลงแช่น้ำแร่อีกครั้ง เมื่อแช่ตัวเสร็จเรียบร้อย ไม่ต้องล้างตัวอีกครั้ง เพื่อให้ร่างกายได้รับประโยชน์จากน้ำแร่อย่างเต็มที่ |
|
 | บ่อน้ำพุร้อนหลายแห่งแวดล้อมด้วยธรรมชาติที่สวยงาม บางแห่งล้อมรอบด้วยภูเขา เช่น ชิเระโทโกะ และ ใน ภูมิภาคโทโฮะกุ ชาวนามักจะอาบน้ำพุร้อน ในช่วงฤดูหนาวหลังการเก็บเกี่ยว หรือเวลาว่างจากการทำงาน เพื่อเป็นการฟื้นฟูสุขภาพภายหลังจากการทำงานหนัก
น้ำตกคะมุอิวักกะ เป็นกระแสน้ำอุ่นที่ไหลจากภูเขาที่ตั้งอยู่ในอุทยานแห่งชาติชิเรโทโกะ บนเกาะฮอกไกโด นักท่องเที่ยวต้องขึ้นเขาประมาณ 20 นาที จะพบกับน้ำตก ใต้น้ำตกลงมาเป็นบ่อน้ำแร่ |
|
|
 | ฮอกไกโด โนโบริเบะทสุอยู่ทางตะวันตกเฉียงใต้ของฮอกไกโด เป็นที่ตั้งของ โนโบริเบะทสุออนเซน, คะรุรุซึ ออนเซน, โนโบริเบะทสุรินไก ออนเซน นอกจากนี้ยังมีทิวทัศน์ที่หลากหลาย เช่น ทะเลสาบ แอ่งน้ำ เป็นต้น จึงได้รับการแต่งตั้งให้เป็นส่วนหนึ่งของ อุทยานแห่งชาติชิโกทจึ-โทยะ น้ำแร่ของที่นี่มีคุณสมบัติช่วยในการรักษาโรค เป็นหนึ่งในน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดในโลก |
|
|
 | อะกิอุออนเซน ตั้งอยู่ที่ศูนย์กลางของจังหวัดมิยะงิ เลียบชายฝั่งแม่น้ำนะโทริงะวะ ซึ่งไหลจากอ่าวเซนไดลงสู่มหาสมุทรแปซิฟิก เป็นน้ำพุร้อนที่เก่าแก่มีมาตั้งแต่ศตวรรษที่ 6 ถึงแม้ย่านอะกิอุจะอยู่ใกล้กับศูนย์กลางเมืองเซนได แต่ร้อยละ 90 ของเมือง เป็นภูเขาและป่า นอกจากนี้ มีโรงแรมสมัยใหม่มากมาย ตั้งอยู่ท่ามกลางธรรมชาติเขียวชะอุ่ม |
|
|
 | สปารีสอร์ทฮาวาเอียน ผู้มาเยือนจะได้สัมผัสกับบรรยากาศแบบฤดูร้อนตลอดทั้งปี มีพื้นที่กว้างเท่ากับหกเท่าของโตเกียวโดม รวมทั้งสวนสนุกอีก 5 แห่งด้วยกัน |
|
|
 | เอโดะ โจวะ โยอิจิ เป็นสวนสนุกที่เน้นการอาบพุร้อนธรรมชาติกลางแจ้ง โดยมีลักษณะเด่นคือ มีโรงอาบน้ำที่เลียนแบบมาจากโรงอาบน้ำสมัยเอโดะ |
|
|
 | บ่อน้ำพุร้อนยักษ์ บ่อหลักมีความยาวถึง 50 เมตร ตั้งอยู่ใกล้กับเรือใบขนาดใหญ่ หรือที่เรียกว่า "เรือสวรรค์" |
|
|
 | สไลเดอร์ มีด้วยกัน 5 ช่อง สามารถเล่นได้สามแบบ ไม่ว่าจะเป็นแบบท่อสไลเดอร์ สไลเดอร์เดี่ยว หรือสไลเดอร์เป็นคู่ รวมทั้งเลือกระดับความชันของสไลเดอร์ได้ด้วยเช่นกัน
เว็บไซต์ภาษาอังกฤษ :www.hawaiians.co.jp/english/index3.html |
|
|
 | อุทยานแห่งชาติฮะโกเนะ ในจังหวัดคะนะงะวะ อยู่ห่างจากเมืองโตเกียวไปทางตะวันตกเฉียงใต้ 2 ชม. สามารถชมหน้าผาสูง หุบเขาลึก ลำธารใส ชายฝั่งทะเลสาบอะชิ และบ่อน้ำพุร้อนมากมายหนึ่งในที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น
เนื่องจากมีน้ำพุร้อนที่มีลักษณะเด่นแตกต่างกันถึง 17 แห่ง ฮะโกเนะจึงได้ชื่อว่า "ฮะโกะเนะ 17 โตะ" (17 น้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียง แห่งฮะโกเนะ) เช่น ยูโมโตะ, โทโนซะวะ, โซโคคุระ, ดะกะชิมะ, คิกะ และ อะชิโนยุ ทั้งหมดตั้งอยู่เลียบแม่น้ำฮะยะ บริเวณศูนย์กลางของฮะโกเนะยกเว้น อะชิโนยุ |
|
|
 | ฮะโกเนะ โควะคิเอน ยูเนซัน เป็นสปารีสอร์ทน้ำพุร้อน และสวนสนุกน้ำ ในบรรยากาศ และทิวทัศน์ที่น่าตื่นตาตื่นใจของฮะโกเนะ เป็นการผสมผสานระหว่างประเพณีที่เป็นเอกลักษณ์ของออนเซน กับกิจกรรมและการบริการสันทนาการทางน้ำ ได้รับการกล่าวขวัญว่าเป็นสถานที่ที่มีน้ำพุร้อน ที่มีคุณภาพดีอยู่เป็นจำนวนมากในฮะโกเนะ ความพิเศษของฮะโกะเนะ โควะคิเอน ยูเนซัน คือ แบ่งสถานพักผ่อนที่มีบริการน้ำพุร้อน และสวนสนุก ออกเป็น 2 โซนใหญ่ๆ |
|
|
 | โซนแรกเรียกว่า ยูเนซัน สปา รีสอร์ท เหมาะสำหรับผู้คนทั่วไปและครอบครัว ที่ต้องการ ใส่ชุดว่ายน้ำลงในแช่น้ำ
นอกจากนี้ฮะโกเนะยังได้ขึ้นชื่อว่ามีรีสอร์ทน้ำพุร้อนที่มีชื่อเสียงมากที่สุดในญี่ปุ่น |
|
|
 | สปาเดดซี เป็นน้ำที่ผสมเกลือจากทะเลเดดซีในตะวันออกกลาง เพื่อเพิ่มความสดชื่นให้กับร่างกายและจิตใจ โดยลอยตัวอยู่ในอ่างน้ำร้อน เกลือจากเดดซีอุดมไปด้วยแร่ธาตุที่ช่วยให้ผิวพรรณเปล่งปลั่ง |
|
|
 | สปาสาเก เป็นถังไม้ขนาดใหญ่ที่บรรจุสาเกญี่ปุ่นแท้ กล่าวกันว่าสาเกช่วยให้ผิวสวย อีกหนึ่งประสบการณ์แปลกใหม่ที่หาได้ในประเทศญี่ปุ่น |
|
|
 | สปาชาเขียว มีส่วนผสมของชาเขียวอยู่จริง ตกแต่งด้วยกาน้ำชาขนาดใหญ่สูง 2 เมตร ตั้งอยู่อย่างโดดเด่น น้ำชานี้มาจากตีนเขาทันซะวะ และฮาโกเน่ ซึ่งรู้จักกันดีว่าเป็นที่ที่มีอากาศเหมาะแก่การปลูกชา ชาที่ปลูกในแถบนั้นจะมีกลิ่นหอม และมีสารที่ช่วยป้องการการเกิดเนื้องอก เสริมสร้างภูมิคุ้มกันในร่างกาย และช่วยให้ผิวมีสุขภาพดี |
|
|
 | สปากาแฟ เป็นสปาพิเศษที่หาได้แห่งเดียวที่ยูเนซัน เป็นกาแฟจริงที่นำมาทำให้เป็นน้ำพุร้อน กล่าวว่ากาแฟมีคุณสมบัติในการรักษาแผลเป็น และเพิ่มความงามให้กับผิวพรรณ และกลิ่นของกาแฟช่วยให้กระปรี้กระเปร่า |
|
|
 | สปาไวน์ เป็นไวน์แดงจริง ตกแต่งด้วยขวดไวน์ใหญ่สูง 3.6 เมตร การลงแช่ในไวน์ช่วยคืนความอ่อนเยาว์ให้กับร่างกาย กล่าวกันว่าพระนางคลีโอพัตราชื่นชอบในการอาบน้ำด้วยไวน์ |
|
|
 | อีกโซนหนึ่งเรียกว่า โมริ โนะ ยุ เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการความเป็นส่วนตัว ผู้มาเยือนสามารถเพลิดเพลินกับน้ำพุร้อนได้โดยไม่ต้องใส่ชุดว่ายน้ำ และดื่มด่ำกับการบรรยากาศแบบญี่ปุ่นโบราณ เว็บไซต์ภาษาอังกฤษ : www.yunessun.com/english/ |
|
|
 | คินุงะวะออนเซน ตั้งเลียบฝั่งแม่น้ำในหุบเขา ซึ่งทอดยาวระหว่าง ภูเขาไดฮุยกะซัน และภูเขาชาคะงะทะเคะ เหนือ แม่น้ำคินุงะวะ เป็นศูนย์กลางของ เมืองโทะจิงิ ซึ่งมีการเปิดสปาเป็นครั้งแรก เมื่อ 300 ปีก่อน ทิวทัศน์ของหุบเขาจะเปลี่ยนไปตามฤดูกาล
เมืองอะตะมิ และ เมืองอิโตะ ตั้งอยู่ที่ปลาย คาบสมุทรอิซุฮันโตสองเมืองนี้หันหน้าออกสู่อ่าวซะงะมิ เป็นย่านโรงแรมทันสมัย ที่พักแบบญี่ปุ่นที่มีประวัติเก่าแก่ทางประวัติศาสตร์ ตั้งเรียงรายติดกับแหล่งบันเทิงมากมาย ส่งให้ทั้งสองเมืองนี้กลายเป็นหนึ่งในสปารีสอร์ทชั้นนำของญี่ปุ่น |
|
|
 | เกะโระออนเซน ตั้งอยู่ทางตะวันออกกลางของจังหวัดกิฟุ ติดกับชายแดนเมืองนะงะโนะ เป็นสปาที่รู้จักกันดีตั้งแต่ศตวรรษที่ 10 จัดว่าเป็นหนึ่งในสามแหล่งน้ำพุร้อนที่ดีที่สุดในญี่ปุ่น และมีชื่อเสียงในเรื่องบรรเทาโรคไขข้อ ไปตาม เส้นทางยุเมจิน ยุเมงุริ เทงะตะ จะพบบ่อน้ำพุร้อนได้มากกว่า 3 แห่ง |
|
|
 | หลายทศวรรษที่ผ่านมา น้ำพุร้อนจำนวนมากของ คุซะทสุ ออนเซนในจังหวัดกุมมะ ได้รับการขนานนามว่า เป็นน้ำพุร้อนที่มีประสิทธิภาพที่สุดในญี่ปุ่น แม้ไม่ดีที่สุด น้ำในรีสอร์ทส่วนใหญ่ผุดเป็นฟองขึ้นไปในบริเวณ "ยูบาทาเกะ" (ทุ่งน้ำร้อน) บริเวณศูนย์กลางของเมือง เชื่อกันว่าน้ำพุร้อนนี้ช่วยรักษาโรคทุกชนิด ยกเว้นโรคทางใจ |
|
|
 | โดโงะออนเซน เป็นหนึ่งในน้ำพุร้อนที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงที่สุด ตั้งอยู่บริเวณ ชานเมืองมะทสุยะมะ บนเกาะชิโกะกุ สถานที่ท่องเที่ยวหลักๆ คือ โดโงะออนเซน ฮอนกัน ที่อาบน้ำสาธารณะทำจากไม้สมัยเมจิ นับตั้งแต่ปี 1894 นอกจากการอาบน้ำ ยังมีการเสิร์ฟชา และขนมหวานญี่ปุ่น ที่มีความซับซ้อนและสง่างาม ภายในห้องส่วนตัว ซึ่งถือเป็นการผ่อนคลายหลังจากการอาบน้ำ |
|
|
 | เมืองเบปปุ เป็นแหล่งน้ำพุร้อนหลักของญี่ปุ่น ในจังหวัดโอะอิตะ ไม่มีรีสอร์ทใดที่สามารถผลิตน้ำพุร้อนได้มากกว่าที่นี่ ในบรรดาสถานที่ท่องเที่ยวของเบปปุ ยังมี "เฮลส์" บ่อน้ำพุร้อนจัดซึ่งไม่เหมาะแก่การลงแช่
จิโงคุ หรือ "เฮลส์" ในเมืองเบปปุ เป็นน้ำพุร้อน 9 แห่งที่น่าตื่นตาตื่นใจที่เหมาะสำหรับชื่นชมมากกว่าการลงแช่ |
|
|
 | เมืองยุฟุอิน ตั้งอยู่บริเวณใจกลางของจังหวัดโอะอิตะ เป็นส่วนต่อขยายจากเขตแดนของอ่างเก็บน้ำยุฟุอิน ซึ่งมี แม่น้ำโออิตะงะวะ เป็นแหล่งกำเนิด ภูเขายุฟุ รู้จักกันในชื่อ "บุงโงะ ฟุจิ" ตั้งอยู่ทางตอนเหนือของอ่างเก็บน้ำ โรงแรมที่สร้างมาเป็นเวลานาน พิพิธภัณฑ์ศิลปะที่มีเอกลักษณ์ แกลลอรี่ส์ขนาดเล็ก ร้านอาหารที่ทันสมัย และร้านกาแฟ ทั้งหมดผสมผสานรวมอยู่ใน ย่านยุฟุอินโจ สร้างบรรยากาศที่น่าหลงใหลไปทั่วบริเวณ |
|
|
 | อิบุซึกิออนเซน เป็นน้ำพุร้อนรวม กลางแจ้ง ซึ่งไม่เหมือนน้ำพุร้อนทั่วไปที่มีห้องอาบน้ำขนาดใหญ่ห้องเดียว แต่ที่นี่เป็นน้ำพุร้อนที่ไม่ใช้น้ำ อิบุซุกิออนเซนเป็น การอบทรายร้อน ซึ่งผู้มาใช้บริการต้องฝังร่างกายอยู่ในทรายร้อน และผ่อนคลายนานเท่าที่ต้องการ แม้ว่าน้ำพุร้อนนี้จะรวมชายหญิง แต่สุภาพสตรีไม่จำเป็นต้องรู้สึกอายเพราะทุกคนต้องใส่ชุดยูกาตะ |
|
|
 | ยุดะนะคะ และชิบุ ออนเซน เป็นน้ำพุร้อนสองแห่งที่โด่งดังมากที่สุดกว่าครึ่งหนึ่ง ในน้ำพุร้อน 12 แห่งที่รวมอยู่ใน เมืองยะมะโนะอุจิ ทางตอนเหนือของเมืองนะงะโนะ บริเวณนี้ยังมีชื่อเสียงในเรื่อง "ลิงหิมะ" ซึ่งเป็นลิงญี่ปุ่นที่ชอบน้ำร้อนธรรมชาติ เช่นเดียวกับผู้มาเยี่ยมชม
น้ำพุร้อนที่มนุษย์สามารถใช้ได้ จะพบเมื่อลงจากหุบเขาต่อไปอีก โคระคุคัน เป็นเรียวกังที่มีบริการน้ำพุร้อน ที่ทำจากไม้ ตั้งอยู่ในบริเวณด้านล่างของสวนลิง
IAMTOUR Expert Center Inter Group Co.,Ltd. 600/24 B-Square Rama9-Mengjai, BKK 10300 TEL 02-530-7200 EXT 117 (กุ๊กกิ๊ก) FAX 02-196-1916-8 www.iam-tour.com
สามารถคลิก!!ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
|
|
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น