คุณอาพาลุย ฮอกไกโด ( ตอนที่2 )
หลังจากเมื่อวาน อาตะลอนจนล้าไปทั้งร่าง พอได้พักผ่อนเอาแรงหน่อย อาก็กลับมากระชุ่มกระชวย พร้อมลุยตามแบบฉบับอาพาเพลิน รายการเที่ยววันนี้ถือว่าเป็นไฮไลท์ของการเที่ยวฮอกไกโดช่วงหน้าร้อนเลย เส้นทางหวานแหวว ฟูราโน บิเอ ขมสวนดอกไม้ถือเป็น a must ของการมาเที่ยวที่นี่ เวลานี้ เฉกเช่นเดียวกับละครไทยที่ขาดนางร้ายไม่ได้ฉันนั้น การเดินทางโดยรถไฟสะดวกสบาย เหมือนทุกๆครั้งที่อามาญี่ปุ่น สถานีรถไฟเต็มไปด้วยคนเดินทาง รวมถึงตู้ขายน้ำ
คนญี่ปุ่นนี่เป็นระเบียบนะอาว่า เข้าแถวเรียงรายเพื่อรอขึ้นรถไฟ พอรถไฟมา เขาก็รอจนกว่าคนที่อยู่บนขบวนออกหมดก่อนถึงค่อยขึ้น ไม่เหมือนคนบ้านอา คงต้องปลูกฝังกันชาตินี้เห็นผลชาติหน้าล่ะ
ข้อมูลด้านการท่องเที่ยวพร้อมสรรพ ใครใคร่เที่ยวแบบไหน เลือกตามเวลา และรสนิยมได้เลย เป็นต้นว่า ถ้าอยากใช้เวลาแต่ละที่นานๆก็เลือกแบบ A อยากเที่ยวแบบครบทุกสถานที่ก็เลือกแบบ B หรือเอาแบบเจาะเฉพาะ ฟุราโน หรือ แถวภูเขาชมท้องทุ่งแถบเมืองบิเอก็เลือกอีกแบบ
ด้วยอาเป็นคนชอบเที่ยวแบบเพลินๆ กอปรกับรอบเวลาที่เอื้อกับตารางเที่ยวของอา อาจึงเลือกเที่ยวแบบ A เริ่มต้นที่ซัปโปโร นั่งรถไฟสมัยใหม่ไปเมืองฟุราโน ต่อด้วยนั่งรถไฟฉึกฉัก (โนรุโกะ)ไปยังสถานี นากะฟุราโน แล้วเดินทอดน่องชมสวนดอกไม้ จากนั้นไปบิเอ ซื้อทัวร์นั่งรถบัสชมขึ้นเนินเขา ชมบรรยากาศชนบทและท้องทุ่ง
ตารางเวลา แจกแจงรายละเอียด รอบเวลา วันที่เดินรถ
เดินทางเพียงชั่งโมงเศษๆ อาก็ถึงสถานีฟุราโน สถานีฟุราโนเป็นสถานีรถไฟเล็กๆ อาว่าคงจะคึกคักก็ช่วงหน้าร้อนนี่แหละ
นักเดินทางรอต่อรถไฟส่วนใหญ่รอชบวนเดียวกับอา
ระหว่างรอ อาสบช่อง เลยจัดอูด้งร้อนๆ ซะหน่อย กินไปซี้ดปากไป เพราะความร้อนหรอกนะไม่ใช่ความอร่อย ฮ่าๆ
บรรยากาศด้านนอกสถานี นักท่องเที่ยวมากหน้าหลายตา รวมทั้งเจ้าหน้าที่สาวๆที่คอยให้เข้อมูลด้านการท่องเที่ยวด้วย
หน้าตารถไฟฉึกฉักที่อาบอก หล่อน้อยแบบนี้ยังเล่นตัวอีก เพราะพี่แกออกมาอวดโฉมเฉพาะหน้าร้อนเท่านั้นนะจ๊ะ
ที่นั่งภายในขบวนรถไฟ หน้าตาดี และสะอาดดีไหมจ๊ะ
ระหว่างทางมันเพลิดเพลินจนลืมกดซัตเตอร์ ทั้งวิวทิวทัศน์ของนาข้าวที่ออกรวงเหลืองอร่าม ดั่งแสงแห่งอาทิตย์ยามเช้า
ทั้งกลิ่นอากาศอันบริสุทธิ์ หอมดิน หอมต้นข้าว หอมธรรมชาติ
ทั้งกลิ่นอากาศอันบริสุทธิ์ หอมดิน หอมต้นข้าว หอมธรรมชาติ
ชาวญี่ปุ่นคงจะมีความสุขกว่าเกษตรกรชาวเราเยอะ เพราะระบบที่ดีกว่าทั้งเทคโนโลยี ทั้งระบบการจัดการน้ำที่ไม่ต้องพึ่งฟ้าฝน ระบบที่ไม่ต้องผ่านพ่อค้าคนกลางหิวเงิน ไม่ต้องผ่านโรงสีหน้าเลือด
พอลงรถไฟ อาต้องเดินอีกราวๆ 300-400 เมตรเพื่อไปยังสวนดอกไม้โทมิตะ ไม่มีข้อยกเว้นสำหรับทุกวรรณะ เชื้อชาติ และหน้าตา เพราะการเดินเป็นวิธีเดียวจริงๆ
ก่อนเข้าฟาร์มจะเห็นลานจอดรถและร้านขายของ พออาเห็นสัญลักษณ์เจ้าเมล่อน อาก็ตรงรี่เข้าไป เหมือนจอแหล่งน้ำกลางซาฮาร่า
หน้าตาดีจัดเรียงสวย ที่สำคัญรสชาติสุโค่ยมากหลานเอ้ย!!
นี่ถ้าใครติดใจ เขามีขายนะ แถมมีบริการจัดส่งถึงบ้าน ถึงสนามบินด้วย อาก็อยากเอากลับพระนครหรอกนะ แต่ให้แบกไปอีกหลายวันคงไม่ไหว กระดูกกระเดี้ยวอางอแงหมด
พออาเข้ามาในสวนก็ปะกับเจ้าป้ายนี่เข้า เลยขอชักภาพซะหน่อย พอให้รู้ว่า มาถึงแล้วนะโว้ย
สวนดอกไม้นี่คลาคล่ำไปด้วยนักท่องเที่ยว ส่วนใหญ่เป็นพวกหัวดำ เอเชียเรานี่แหละ ฝรั่งหัวแดง หัวทองไม่ค่อยเห็น
แถบฟุราโน บิเอ และบริเวณนี้ สมัยก่อนเขาเน้นปลูกลาเวนเดอร์ เพื่อการค้า เพื่อส่งออก แต่เมื่อประมาณ 40-50 ก่อน ราคาดอกลาเวนเดอร์ตกต่ำลง ทำให้ชาวสวนต้องปรับตัว โดยเขาหันทำเป็นแหล่งท่องเที่ยว รวมถึงการนำดอกไม้จากสวนมาแปรรูปเป็นผลิตภัณฑ์ต่างๆ
อาแทบจะหามุมที่ปลอดคนเพื่อถ่ายรูปไม่มีเลย อีกทั้งเมฆสีดอกเลาเต็มผืนฟ้า แสงแดดไม่มีให้เห็นแต่เช้า ให้ตายซิ!!
ดอกไม้หลากสีสันใน สวนโทมิตะ
โลกเรานี่อากาศแย่ลงๆทุกวัน ดอกไม้ที่เคยบานอวดโฉม เวลานี้ ก็บานมั้ง ไม่บานมั้ง แต่อย่างไรก็ตาม อาก็เก็บความสุขเท่าที่เห็น เท่าที่พบเจอก็พอแล้ว
ร้านค้าของฟาร์ม ดีตรงที่มีแอร์และห้องน้ำหอมๆให้บริการ
ชมดอกไม้จนลายตา อาก็นั่งรถไฟขบวนเดิม มุ่งมายังเมืองเล็กๆที่ชื่อว่าบิเอ เมืองนี้เค้าก็ปลูกดอกไม้ ทำเกษตรกรรม
อาซื้อทัวร์รถบัสเอาไว้ สนนราคา 500 เยน ได้นั่งชมวิวทิวทุ่งตั้งชั่วโมง อาไปไหนมาบ้างน่ะหรอ ก็ตามรายการข้างล่างนี้เลย
ต้นโอ๊คต้นนี้ดังใช่เล่น ใครมาแถบนี้ต้องแวะเวียนมาดูกันทั้งนั้น เขาบอกว่ามันเป็นต้นไม้ที่เคยอยู่บนซองบุหรี่ยี่ห้อเซเว่น สตาร์ ยี่ห้อนี้พวกตัวการ์ตูนญี่ปุ่นแนวนักเลงวัยรุ่นเขานิยมกัน
ฮาเล่คันงาม ก็ไม่พลาดที่จะมาชม
บรรยากาศระหว่างทาง ถ้าแดดดีกว่านี้อาคงได้แสดงฝีมือการถ่ายรูป
ผ่านไปหนึ่งชั่วโมง รถบัสก็มาจอดส่งหน้าสถานีรถไฟบิเอ อาต้องรอรถไฟอีกชั่วโมงครึ่งกว่าจะมีขบวนที่วิ่งจากบิเอไปยังเมืองที่อาจะต่อรถไฟเข้าซัปโปโร อาเลยถือโอกาสงามๆนี้เดิมชมเมืองซะเลย
บรรยากาศเงียบๆ เหมือนเมืองร้าง
อาเดินเล่น ดูโน่น ดูนี่ เลี้ยวเข้าถนนหนึ่ง ออกถนนหนึ่ง เหมือนเป็นเจ้าบ้านเดินตรวจความเรียบร้อยเลย
ชานชาลาเล็กๆกระนั้นก็ยังมีสะพานลอยหลังคาคลุม เพื่อให้ผู้โดยสารใช้ข้ามทางรถไฟ

รถไฟมาแล้วอาต้องเดินทางอีกชั่วโมงครึ่ง ถึงสองชั่วโมงกว่าจะถึงที่พัก วันนี้อาเพลินกับการตะลอนเที่ยวเป็นอย่างมาก ยังมีสถานที่อีกมากโข ที่รออาอยู่ในวันพรุ่งนี้ และคงจะให้ความสุขกับอาเหมือนวันนี้ เจอกันนะจ๊ะ
IAMTOUR Expert Center Inter Group Co.,Ltd.
600/24 B-Square Rama9-Mengjai, BKK 10300
TEL 02-530-7200 EXT 117 (กุ๊กกิ๊ก) FAX 02-196-1916-8
www.iam-tour.com
สามารถคลิก!!ดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น